อุดรธานี – เฒ่าสหายเก่า ‘ฉุน’ หนุ่มคราวลูกท้าทายหยามข้ามรุ่นชักมีดแทงดับกลางวงเหล้า

เมื่อเวลา 12.15 น.วันที่ 13 พฤษภาคม ร.ต.อ กุณช์พิสิษฐ์ ศรีสงคราม รอง สว.(สอบสวน) สภ.หนองหาน จ.อุดรธานี ได้รับแจ้งเหตุมีชายถูกแทงเสียชีวิต เหตุเกิดหน้าร้ายขายของชำ เลขที่ 83 บ.หัวเชียง ม.13 ต.หนองหาน อ.หนองหาน จ.อุดรธานี หลังรับแจ้งเหตุ จึงพร้อมด้วยตำรวจชุดสืบสวน สภ.หนองหาน แพทย์เวร รพ.หนองหาน และอาสากู้ภัยมิลนิธิส่งเสริมธรรมแห่งอุดรธานี จุดบริการหนองหาน รุดไปตรวจสอบ

เมื่อไปถึงที่เกิดเหตุเป็นกระท่อมไม้ยกพื้นสูง บนกระท่อมพบร่างนายอนันต์ กงช่าง อายุ 49 ปี อยู่บ้านเลขที่ 160 ม.13 ต.หนองหาน ไม่สวมเสื้อ สวมกางเกงขาสั้นสีเหลือง สภาพนอนหงายเสียชีวิต สภาพศพถูกแทงด้วยอาวุธมีดบริเวณกลางหน้าอก 1 แผล ส่วนมือมีดชื่อนายจำปา หาสุข อายุ 86 ปี อยู่บ้านเลขที่ 71 บ.หัวเชียง ม.13 ต.หนองหาน หลังก่อเหตุได้เดินถือมีดกลับไปยังบ้านพัก ก่อนที่ตำรวจชุดสืบสวน จะไปติดตามตัวมาที่เกิดเหตุ และนำตัวพร้อมมีดสนาม ยาวประมาณ 30 ซม. ของกลาง ไปทำการสอบสวนที่ สภ.หนองหาน

จากการสอบสวนเบื้องต้นนายจำปาฯ ผู้ก่อเหตุ ให้การรับสารภาพว่า “เป็นคนลงมือแทงนายอนันต์ฯ จริง เนื่องจากถูกนายอนันต์ฯ ที่เป็นหนุ่มรุ่นลูก พูดจาท้าทาย ว่าไม่กล้าแทงตนเอง ด้วยความโมโห จึงปั่นจักรยานกลับไปเอามีดที่บ้าน แล้วมาแทงเพื่อระบายแค้น ก่อนเดินกลับไปที่บ้าน และตนไม่ขอโทษผู้ตาย” ก่อนแจ้งข้อกล่าวหา “ฆ่าผู้อื่นโดยเจตนา”

นายเสถียร เสนาชุม อายุ 82 ปี เจ้าของร้านชำ ให้การว่า มีกลุ่มคนในหมู่บ้านมาจับกลุ่มนั่งดื่มเหล้าขาวกันที่กระท่อมหน้าร้านตั้งแต่เช้า เมื่อได้ที่ก็เริ่มมีการถกเถียงกันในวงเหล้า ฟังไม่ได้ศัพท์ ไม่รู้ว่าเถียงกันเรื่องอะไร แต่ได้ยินว่ามีการท้าทายกัน ว่าไม่กล้ายิง ไม่กล้าแทง เมื่อได้ยินแบบนั้น ตนจึงตะโกนห้ามปราม ให้เลิกโต้เถียงกัน เพราะกลัวว่าจะมีเหตุบานปลายและรุนแรง สักพักคนก่อเหตุก็ปั่นจักรยานกลับบ้าน ไม่นานก็กลับมาใหม่ แล้วก็เกิดเหตุแทงกันจนมีคนตาย

นายยุทธภูมิ มีกุศล อายุ 54 ปี ลุงของผู้ตาย เปิดเผยว่า ก่อนเกิดเหตุตนได้นั่งร่วมวงดื่มเหล้าด้วยกัน กินกันประมาณ 6 – 7 คน คนตายด่าคนก่อเหตุสารพัด ดูถูกว่าคนแก่จะเก่งแค่ไหน คนหนุ่มมาด่าคนแก่มันก็ไม่เหมาะสม ซึ่งต่างคนก็ต่างเมา แล้วคนแทงก็ปั่นจักรยานกลับบ้านไป สักพักคนแทงก็ปั่นจักรยานกลับมา ตนคิดไว้แล้วว่าเขาต้องกับมาฆ่าคนตาย เลยบอกคนในวงว่าให้ระวัง ตนเดินไปหาคนแทง คลำดูที่เอวก็รู้ว่าพกมีดมา ตนก็บอกให้ใจเย็น ค่อยพูดจากัน เดี๋ยวจะพาคนตายไปขอขมา แล้วก็พูดคุยสนุกกัน แต่ตนก็สังเกตว่าคนแทงนั้นยังไม่ยอม ยังจ้องมองคนตายตลอด

“ต่อมาแม่โทรมาหาตนว่ามีคนมาหา มาติดต่อเรื่องงานช่าง ตนจึงจะออกไปธุระ ก่อนจะออกไปตนได้เตือนผู้ตายให้ระมัดระวังคำพูด เตือนผู้ตายว่าให้ระวังตัว เพราะผู้ก่อเหตุนั้นมีประวัติเป็นสหายเก่า เคยร่วมขบวนการคอมมิวนิสต์ เขาเคยฆ่าคนมาก่อน ส่วนตัวก็ระวังตัวเองอยู่แล้ว ตนจึงเตือนผู้ตายเอาไว้ ที่สุดแล้วเขาก็ลงมือก่อเหตุฆ่าหลานตนจริงๆ”

ด้านนายชูศักดิ์ บุญประเสริฐ อายุ 67 ปี พยานในที่เกิดเหตุ เล่าว่า ตนก็ร่วมวงดื่มเหล้าด้วยกัน ปมสาเหตุเกิดจากการถกเถียงกัน ตัวเล็กก็ไม่ยอมตัวใหญ่ ตัวอ่อนไม่ยอมตัวแก่ คนตายเถียงคนก่อเหตุไม่ลดราวาศอก ผู้ก่อเหตุจึงกลับไปเอามีดมาแทงคนตาย

น.ส.นวลจันทร์ กงช่าง อายุ 54 ปี พี่สาวคนตาย กล่าวว่า ก่อนเกิดเหตุตนทำงานอยู่ ป้าได้โทรไปบอกว่าน้องชายถูกแทงตาย ตนจึงรีบออกมาดู คนตายมีอาชีพรับจ้างทั่วไป ชอบดื่มเหล้าเป็นประจำ เมาเหล้าอยู่ตลอดเวลา แต่ไม่มีพิษมีภัยกับใคร เมื่อคืนนี้หมาที่บ้าน ที่เลี้ยงไว้ 3 ตัว ได้เห่าหอนทั้งคืน ตนก็ออกมาดู ก็เห็นน้องชายกระโดดขึ้นลงรถซาเล้งที่จอดอยู่หน้าบ้าน หมาก็เห่าเสียงดังจนไม่ได้ เมื่อตนตะโกนดุก็เงียบเสียงไป ไม่รู้ว่าจะเป็นลางร้ายหรือไม่